Tuesday, April 16, 2013

เครื่องตัดอ้อยขนาดเล็ก

.. อย่างไรก็ตาม  เครื่องตัดอ้อยขนาดเล็กที่เราเห็นกันอยู่มากมายหลายรุ่นนี้ ส่วนใหญ่จะตัดแบบไม่ลิดใบ  ชาวไร่ซื้อมาแล้วก็ต้องเผาอ้อยก่อนตัดอยู่ดี  ข้อนี้อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ชาวไร่ลังเลที่จะซื้อ.. ก็.. แหม  อุตส่าห์เสียเงินซื้อเครื่องตัดอ้อยมาใช้แล้วยังต้องถูกหักค่าอ้อยไฟไหม้ อีก..
คงจะเคยได้ยิน "เครื่องสางใบอ้อย" นะครับ  เจ้าเครื่องสางใบนี้ ใช้วิ่งเข้าระหว่างแถวอ้อยเพื่อสางใบอ้อยก่อนตัด  ผมได้ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี ซึ่งพัฒนาเครื่องนี้อยู่ ทราบว่าเครื่องสางใบดังกล่าว สามารถสางใบอ้อยโดยเฉลี่ย 16 เมตร/ นาที หรือ 1 ไร่ ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที

เห็นแล้วน่าใช้นะครับ  ราคาก็ไม่น่าจะสูงนัก แต่ดูแล้วก็คงตัดอ้อยแบบไม่ลิดใบ(อีกแล้ว)..
เรื่องการจัดสร้างเครื่องตัดอ้อยขึ้นใช้งานนี่นะ  ผมว่าพี่ไทยเราก็เก่งไม่หยอก  มุดดูต้นแบบแป๊บเดียวก็ลอกแบบมาทำเองได้แล้ว  ผมว่าปัญหาส่วนหนึ่งอยู่ที่การตั้งราคาขายซึ่งต้องให้ได้กำไร
เราลองตั้งราคากันเล่นๆ ก่อนดีมั้ยครับ  เผื่อผู้ผลิตมาอ่านเจอแล้วสนใจว่าน่าจะทำกำไรได้ จะได้ออกแบบโดยเอาราคาเป็นตัวตั้ง  และประสิทธิภาพก็เป็นไปตามราคา
..ราคาที่ชาวไร่เห็นว่าสู้ได้ ควรอยู่ที่เท่าไหร่ ?
หรือจะเอาปริมาณงาน/วันเป็นตัวตั้ง  แล้วออกแบบไปเรื่อยๆ เสร็จเมื่อไหร่ถึงจะรู้ราคา
.. ปริมาณการตัดอ้อย/วัน ที่ชาวไร่เห็นว่าเหมาะสม ควรเป็นเท่าไหร่ ?
หรือจะตั้งโจทย์โดยพิจารณาจากทรัพยากรที่มีอยู่  อย่างเช่น ปรับปรุงดัดแปลงจากรถไถเดินตาม  ดัดแปลงจากรถไถเล็ก  ดัดแปลงจากรถไถใหญ่.. ก็คงต้องช่วยๆ กันคิดนะครับ

.. โดยส่วนตัวเชื่อว่า "เครื่องสางใบอ้อย" จะเป็นกุญแจอีกดอกหนึ่งที่จะช่วยไขประตูความฝันให้กับชาวไร่ได้  การใช้เครื่องสางใบอ้อยนำหน้าแรงงาน  น่าจะช่วยให้แรงงานตัดได้เร็วขึ้น  ลดข้ออ้างที่ว่าไม่อยากตัดอ้อยสดเพราะตัดยาก ตัดได้น้อยกว่าอ้อยเผา    หรือกรณีใช้ร่วมกับเครื่องตัดขนาดเล็ก จะช่วยให้เครื่องตัดอ้อยขนาดเล็กมีคุณภาพงานดีขึ้น คือตัดอ้อยสดได้  ถ้าปรับปรุงเครื่องสางใบอ้อยให้สามารถใช้งานได้จริงแล้ว เรื่องเครื่องตัดขนาดเล็กเป็นเรื่องจิ๊บๆ เพราะมีรอให้ซื้ออยู่เยอะแยะ
ผมว่า..แทนที่เราจะฝากความหวังไว้ที่การพัฒนาเครื่องตัดอ้อยราคาถูกแต่ เพียงอย่างเดียว  เราน่าจะลองพิจารณาการพัฒนาเครื่องสางใบให้ใช้งานได้จริง  ซึ่งเราจะได้เครื่องมือราคาถูกกว่ามาก เพื่อสนับสนุนการตัดอ้อยสด ไม่ว่าจะโดยแรงงาน หรือเครื่องตัดก็ตาม





ได้ยินมาว่า แต่ละปี สอน.ค้นหาเพื่อมอบรางวัลสำหรับชาวไร่ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการไร่อ้อย  และใช้เงินงบประมาณอีกไม่น้อยในงานทดลองวิจัย.. เป็นไปได้หรือไม่ที่ สอน.จะเจียดเงินบางส่วนเพื่อตั้งเป็นรางวัลสำหรับนวัตกรรมหรือคำตอบทีดีที่ สุด ตามโจทย์ที่ตั้งไว้.. ไม่ใช่นวัตกรรมอะไรก็ได้ซึ่งนั่นเป็นงานของ สวทช.  แต่ขอให้เป็นไปตามโจทย์ของ สอน.เอง
เช่น ถ้า สอน.จะตั้งรางวัลสัก.. สมมุติว่า 100,000 สำหรับเครื่องสางใบอ้อยที่ทำงานได้ดีที่สุด และเกินระดับที่กำหนด ก็น่าจะสร้างแรงจูงใจให้นักประดิษฐ์ไทยสนใจลงสนามประลองปัญญา  โดยที่รู้ว่าปลายทางของการลงแรงลงความคิด จะไม่สูญเปล่า
.. เคยมีส่วนร่วมในการออกแบบชิ้นงานด้านเครื่องกลของภาครัฐ ซึ่งเมื่อดำเนินการไปค่อนทาง อยู่ระหว่างการทดสอบ พบว่าการออกแบบเดิมจะใช้ไม่ได้ผลอย่างที่คาด การใช้เทคโนโลยีใหม่จะได้ผลดีกว่า แต่จำเป็นจะต้องดำเนินการต่อเพราะมีเงี่อนไขสัญญาเดิมบังคับไว้ สุดท้ายได้ชิ้นงานที่ตรงตามเงื่อนไข แต่ประสิทธิ์ภาพไม่สูงเท่าที่ควร.. ครับ  ไม่มีการปรับปรุงต่อเพราะหมดงบและเจ้าของทุนมองว่าการทำต่อโครงการที่ 2 เพื่อปรับปรุงชิ้นงานเดิม แสดงให้เห็นความไม่สมบูรณ์ของโครงการที่ 1 .. ในอีกมุมหนึ่งอาจมองได้ว่าเป็นความไม่รู้รอบของเจ้าของทุนหรือไม่
.. การตั้งรางวัลสำหรับชิ้นงานที่สำเร็จแล้วจะให้ผลที่ต่างออกไป  นักออกแบบจะสามารถปรับเปลี่ยนหลักการหรือเทคโนโลยีได้ตลอดเวลา ไม่ถูกจำกัดโดยเงื่อนไข ข้อบังคับ กฏระเบียบของทางราชการ สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระโดยมุ่งความสำเร็จสูงสุดเป็นเป้าหมาย  แน่ล่ะ นักออกแบบก็ต้องยอมรับการขาดทุนหากงานไม่สำเร็จหรือประสิทธิภาพสูงไม่เท่า นักออกแบบรายอื่น.. ในส่วนของเจ้าของรางวัลจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้  .. หรืออาจไม่เสียเลย..
.. บังเอิญแอบได้ยินพี่ๆชาว สอน.คุยว่าปีนี้ สอน.ใช้เงินงบประมาณจำนวนมากเพื่อรวบรวมองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับอ้อย.. หลายหัวข้อแทบจะต้องปีนบันไดไปนั่งฟังเพราะเป็นความรู้ระดับสูงส่งเป็น อุดมคติเหลือเกิน ทำให้อดน้อยใจ เสียดายแทนชาวไร่อย่างเราไม่ได้ เพราะอันที่จริงประดาความรู้ที่ได้สั่งสมกันมานานยังหาโอกาสนำมาใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน ไม่มีโครงการดีๆ สนับสนุน.. การรวบรวมองค์ความรู้ ณ วันนี้จะได้นำไปใช้เมื่อไร ในลักษณะใดกันอีกหนอ
.. อดคิดไม่ได้ว่า  บางที  ชาวไร่หน้าดำๆ ก็ไม่ได้ต้องการความรู้ระดับบริสุทธุ์ สูงส่งชนิดที่จับใช้ไม่ถึง  แค่ต้องการ การสนับสนุนขั้นพื้นฐาน กับความรู้ระดับธรรมดาๆ ที่ใช้ได้ผลจริงสักครึ่ง ก็ได้นะเออ..




0 comments:

Post a Comment