อ้อย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saccharum officinarum L.
วงศ์ : Poaceae (Graminceae)
ชื่อสามัญ : Sugar Cane
ชื่ออื่น : อ้อยขม อ้อยแดง อ้อยดำ (ภาคกลาง) อำโป (เขมร)
แหล่งกำเนิด
แหล่งกำเนิดดั้งเดิมของอ้อยอยู่ในนิวกีนี
ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ในมหาสุมทรแปซิฟิก
มีหลักฐานยืนยันว่าชาวพื้นเมืองของเกาะนี้ปลูกอ้อยไว้ในสวนสำหรับเคี้ยวกิน
เล่นมาตั้งแต่สมัยโบราญ นักพฤกษศาสตร์ในยุคหลัง ๆ ได้สันนิษฐานตรงกันว่า
Saccharum officinarum L. นี้มีกำเนิดจากเกาะนิวกีนีอย่างแน่นอน
และเชื่อว่าอ้อยพันธุ์ดั้งเดิมนี้เป็นอ้อยที่เรียกขานกันต่อมาว่า
“อ้อยมีตระกูล” (noble canes) และนอกจากนั้น “อ้อยมีตระกูล”
นี้ยังมีพืชในสกุลเดียวกัน คือ อ้อและแขม
ในโลกนี้มีพืชสกุลเดียวกับอ้อยมากกว่า 7 ชนิด
นักพฤกษศาสตร์ชาวอินเดียกล่าวว่าอ้อยอีกชนิดหนึ่งมีชื่อว่า S.barberi
นั้นมีพื้นเพดั้งเดิมเกิดอยู่ในทางตอนเหนือของอินเดีย
แล้วถูกนำไปปลูกในประเทศจีนในราว 250 ปีก่อนพุทธกาล
ภาษาสันสกฤตเรียกอ้อยว่า “Shakkara” ซึ่งพ้องหรือใกล้เคียงกับภาษาลาตินว่า
Saccharum และมีความหมายว่า “พืชใหม่จากทางตะวันออก”
นั่นแสดงว่าแหล่งกำเนิดของอ้อยนั้นอยู่ทางทิศตะวันออกของอินเดีย
ในราว ค.ศ. 1853 มีนักวิทยาศาสตร์หลายคณะ
ที่สนใจในแหล่งกำเนิดของอ้อยได้เดินทางไปแสวงหาข้อเท็จจริงที่เกาะนิวกีนี
และได้พบหลักฐานทั้งด้านพฤกษศาสตร์ ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ว่า
S.officinarum L. มีแหล่งกำเนิดที่เกาะนั้น
การแพร่พันธุ์ของอ้อยจากเกาะนิวกีนีนั้น
เกิดจากการอพยพของคนในสมัยโบราณสันนิษฐานว่าอ้อยกระจายออกจากนิวกีนีไป 3
ทาง คือ เริ่มแรกอ้อยถูกนำไปที่เกาะโซโลมอน เกาะนิวเฮบริติส
และเกาะนิวคาลิโดเนีย
ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียประมาณ 8,000
ปีก่อนคริสตกาล อีกทางหนึ่งอ้อยถูกนำไปทางทิศตะวันตก ไปสู่อินโดนีเซีย
ฟิลิปปินส์และในที่สุดไปสู่ด้านเหนือของอินเดียในราวประมาณ 6,000
ปีก่อนคริสตกาล
ทางที่สามคาดว่าอ้อยถูกนำไปสู่เกาะทางทิศตะวันออกของหมู่เกาะไซโลมอน
ซึ่งได้แก่เกาะฟิจิ ตองกา ซามัว เกาะคุก หมู่เกาะมาร์คีซาส์ เกาะโซไซตี
เกาะอีสเตอร์ และฮาวาย รวมทั้งเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทรแปซิฟิก
อเล็กซานเดอร์มหาราชได้นำอ้อยจากอินเดียไปสู่มาซีโดเนียในราว ค.ศ. 218
ในสมัยพุทธกาลอ้อยอาจถูกนำไปสู่เปอร์เซีย อราเบีย อียิปต์
หลังจากนั้นมาอ้อยก็ไปถึงสเปญ มาไดรา (Madeira) หมู่เกาะคานารีและเซาโตเม
ทั้งนี้อาจเป็นไปโดยการจงใจดังเช่นในการเดินทางไปอเมริการครั้งที่ 2
ของโคลัมบัสในปี ค.ศ. 1493
และภายหลังก็มีการนำไปอีกโดยนักเผชิญโชคทางเรือในศตวรรษที่ 18 และ 19
นอกจากโคลัมบัสแล้วยังมีนักเดินเรือผู้อื่นอีกที่นำอ้อยไปแพร่หลาย
โดยอาศัยประโยชน์ใช้เป็นอาหารในระหว่างเดินเรือได้ ในครึ่งแรกของศตวรรษที่
16 นักเดินเรือล่าเมืองขึ้นเป็นผู้นำอ้อยไปสู่แถบศูนย์สูตรโลก
อ้อยในประเทศไทย
อ้อยเป็นพืชที่มีความสำคัญที่ชาวไทยนำมาใช้ในพิธีต่าง ๆ
มาแต่โบราณกาลไม่ว่างานเทศกาลหรือพิธีมงคลต่าง ๆ เช่น แต่งงาน โกนจุก
ขึ้นบ้านใหม่ หรือเทศน์มหาชาติ สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คืออ้อย
ในงานหมั้นหรือแต่งงานก็มีต้นอ้อยแห่มากับขบวนขันหมาก
และนำมาผูกที่ประตูบ้านเจ้าสาว
ในการไหว้พระจันทร์ของชาวจีนก็ใช้อ้อยประดับทำซุ้ม ในพิธีต่าง ๆ
ที่ต้องมีมณฑปพิธีตั้งราชวัติฉัตรธง ก็จะต้องประดับประดาด้วยอ้อย
รวมทั้งกล้วย มะพร้าวต่าง ๆ ด้วย
ในตำรับยาแผนโบราณใช้อ้อยแดงมาต้มกับเครื่องยาอื่น
ที่เรียกว่าอ้อยแดงก็เพราะมีเปลือกสีแดงจนเกือบดำ
บางครั้งจึงมีผู้เรียกว่าอ้อยดำหรืออ้อยขม เนื่องจากตาและเปลือกมีรสขม
Sunday, January 6, 2013
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment